ทฤษฎีที่ได้รับการยอมรับมานานเชื่อว่า การที่คนคนหนึ่งจะอาศัยอยู่บนโลกได้นั้นต้องมีปัจจัยสี่จึงจะมีชีวิตรอดได้ นั่นคือ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค…
ฉันก็มีทฤษฎีของตัวเองเช่นกัน
ทฤษฎีนี้มีอยู่ว่า ปัจจัยสี่เหมือนที่ใครเขาเชื่อนั้นทำให้คนอยู่ได้ แต่อาจอยู่อย่างไม่มีความสุข ฉันจึงเพิ่มอีกอย่างหนึ่งเพิ่มเข้ามา
ปัจจัยที่ห้า ความรัก
นอกจากนี้ ทฤษฎีของฉันก็หมายเหตุตัวโตๆ ไว้ว่า ไม่มีใครที่ไม่เคยรัก!
หลายคนตกหลุมรักแบบไม่รู้ตัว หลายคนไม่รู้ตัวว่าทำให้คนตกหลุมรัก หลายคนรักและกล้าบอก ขณะที่อีกหลายคนแอบรัก…
แน่นอนว่าคนไม่ค่อยพูดไม่ค่อยคุยอย่างฉันเป็นหนึ่งในแบบสุดท้าย
เมื่อก่อนฉันคิดว่า การบอกรักเป็นการพูดที่ต้องใช้ทักษะและความสามารถระดับสูง ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากมากที่สุดรองจากการบอกเลิก ดังนั้นเมื่อฉันรักใครสักคน การบอกให้เขารู้เป็นสิ่งที่ฉันไม่เคยคิดจะทำแม้แต่นิด จนกระทั่งได้มาเจอคนๆ หนึ่ง
ความสัมพันธ์ในฐานะเพื่อนทำให้เราสนิทกันมากขึ้น ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน มากขึ้น คุยกันมากขึ้นและความรู้สึกก็มากขึ้นโดยไม่รู้ตัว
เขาทำให้ฉันเข้าใจในความรู้สึกที่อยากจะบอกรักใครสักคนเป็นครั้งแรกในชีวิต ฉันพยายามรวบรวมความกล้าและทักษะความสามารถที่มีเพื่อเดินไป พูดคำสั้นๆ หนึ่งพยางค์คำนี้ พยายามจนแล้วจนเล่า แต่ความสามารถของฉันก็ยังมีไม่มากพอ
ฉันถามคนนู้น ถามคนนี้ ถามทุกคนที่คิดว่าจะแนะแนวทางให้ฉันได้ และทุกคำตอบก็คือคำตอบเดียวกันว่า ให้กล้าเท่านั้นพอ ฉันพูดกับตัวเองในใจทุกครั้งที่ได้รับคำตอบนี้ว่า ถ้าจะตอบแบบนี้…ตอบเองก็ได้
จนกระทั่งวันหนึ่ง หนังสือเล่มเล็กๆ ชื่อเก๋ๆ ว่า “ความน่าจะเป็น” ก็ผ่านเข้ามาในขอบเขตการมองเห็นของสายตา ทันใดนั้นความคิดของฉันก็หวนไปนึกถึงบทเรียนวิชาคณิตศาสตร์ที่เคยร่ำเรียนมาสมัยมัธยมฯ
ฉันเกิดความคิดใหม่ขึ้นมาว่า ผลลัพธ์ที่เป็นไปได้ของการบอกรักใครสักคนมีเพียงสองอย่าง คือ รักและไม่รัก ดังนั้นความเป็นไปได้มีเท่ากันคืออย่างละ ๕๐ เปอร์เซ็นต์
ตั้ง ๕๐ เปอร์เซ็นต์ที่มีโอกาสจะได้คำว่ารักกลับคืนมา… แล้วจะมีเหตุผลอะไรที่ฉันไม่ควรบอก
และแล้วความสามารถของฉันที่รวบรวมมาเป็นเวลานานก็ถูกนำไปใช้ และมันก็ก่อให้เกิดประโยชน์ที่ฉันพึงพอใจ…
๕๐ เปอร์เซ็นต์นั้นเป็นของฉันจริงๆ
เชื่อเถอะว่า ความรักที่ไม่แสดงออกไม่ใช่ความรัก ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ การบอกรัก ไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัว เพราะโอกาสเป็นไปได้มีสูงถึงครึ่งหนึ่งจากเต็มร้อย หากเอาแต่กลัว ไม่กล้าบอก ความเป็นไปได้คือศูนย์
แต่หากลองเสี่ยงดูสักครั้ง ไม่แน่ว่า ๕๐ เปอร์เซ็นต์ นั้นอาจเป็นของคุณ …
ความคิดเห็นที่ 28
ที่คุณพิมบอกว่าพอบอกเค้าแล้ว เวลาคุณพิม เหนหน้าเค้าแล้ว บางทีเขาก้อยิ้มให้บางที่กอทามเมิน เหมือนเราเลยหลังจากบอก เค้าคนนั้นก็แสดงออกใส่เราเหมือนเคสของคุณพิมเดี๊ยะเลย โดยเฉพาะเวลาต้องเจอกันเป็นกลุ่มเนี๊ยะเค้าจะแสดงออกมากจนสังเกตได้เลย ว่าเหมือนเราไม่มีตัวตน ณ ตอนนั้น ทั้งๆๆที่นั่งตรงข้ามกันแต่ว่ายุใกล้ๆๆ ทำเหมือนเกลียดเรามาก แต่บางทีเวลาเราเดินไปคนเดียว บังเอิญเจอกันก็ยิ้มให้ เราอ่ะเซ็งเลย เดาอารมเค้าไม่ถูก
ความคิดเห็นที่ 27
เคยไปบอกชอบคนๆนึง เพราะนึกถึงบทความนี้
เเม้จะเป็นเพื่อนกัน
ก็ยังดีที่เราซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของตัวเองค่ะ
su (2 มกราคม 2555 เวลา 00:25:08)
ความคิดเห็นที่ 26
เราเคยเจอประสบกานอย่างนี้แร้วพอได้บอกรักเค้าก้อโร่งจายไม่อึดอัดพอเหนหน้าเค้าบางทีเขาก้อยิ้มให้บางที่กอทามเมินมาจนถึงวันี้แล้วมีชายมาชอบเราเตมเรยหมอลักษณ์ทามนายเม่นมาก
พิมพ์ (31 ธันวาคม 2554 เวลา 17:59:01)
ความคิดเห็นที่ 25
รักเข้าแล้วใช่ไหมถ้ารักแล้วก้อรักเลยบอกเค้าตรงๆไม่ต้องเขินอายแล้วเค้ก้อรู้เองค่ะ
พิมพ์ (31 ธันวาคม 2554 เวลา 17:55:52)
ความคิดเห็นที่ 24
เราก็เป็นคนนึงที่เคยมีประสบการณ์ แอบรักซึ่งเป็นคนใกล้ตัวด้วย เค้าคนนั้นเป็นรุ่นพี่ แถมยังเป็นลุงรหัสอีกต่างหาก เราแอบชอบเขามาได้9เดือนกว่าๆๆ และคิดว่าจะแอบชอบต่อไป แต่ไม่ไหว การได้เจอกันบ่อยๆในช่วง9เดือนเนี่ย มันช่างทรมานเหลือเกิน เพราะช่วงเก้าเดือนกว่าๆๆที่เราแอบชอบเขามาก แต่เขาดันก็นึกว่าเราเกลียดเขาถึงไปกวนประสาท จนมองหน้ากันไม่ค่อยติดเวลายุมหาลัย ทีช้านรู้ความคิดของเขาเพราะเค้าเคยถามช้านว่า น้องคงจะเกลียดพี่มากสินะ ถึงโทรมากวนประสาท ช้านก็ได้แต่บอกว่าการแสดงออกอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เห็นก็ได้ เอาไว้พี่เรียนจบช้านจะบอกพี่ และแล้ววันที่เราได้บอกชอบเขาก็มาถึง เพราะเขามาจับได้ว่าเราไปหลอกเขา โดยการปลอมเป็นผู้ญ อีกคนนึงที่คุยกับเขา พอเขารู้ความจริงก็โกรธมากและถามตลอดว่าช้านทำยังงี้ทำไม ในที่สุดช้านก็ทนไม่ไหวแล้วจึงตะโกนออกไปว่า"ที่ช้านทำไปก็เพราะช้านแอบชอบพี่ไง เพราะช้านชอบพี่ไง"ใส่หน้าเขา
จากตอนแรกหน้าเขาแสดงอารมณ์โกรธเพราะรู้ว่าตัวเองถูกหลอก สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นอึ้งทันที ช้านเห็นหน้าเขาตอนนั้นดูอึ้งมาก กระพริบตาปริบๆๆ เขาอึ้งไปสักพักใหญ่ ก่อนเขาจะพูดกับช้านว่า พี่ก็รู้สึกเเฉยๆๆหน่ะนะ หลังจากนั้นทุกที
ที่ช้านเจอเขาบรรยากาศก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง อาจจะเป็นเพราะตอนนี้เขาได้รู้ว่าในใจช้านไม่ได้เกลียดเค้าอย่างที่เขาคิด แต่ตรงกันข้ามกลับชอบเขามากแต่ต้องปิดเงียบ และไม่แสดงออกก็เพราะช้านเป็นรุ่นน้องของเขา เขาและช้านไม่เคยพูดเรื่องนี้กันอีกเลย สำหรับช้านสิ่งที่ช้านคิดมันไม่เกี่ยวกับเรื่อง50%แล้ว แต่ช้านบอกเพื่อความสบายใจของช้าน ช้านเคยแอบชอบเขาแล้วเขาไม่รู้เวลาเจอกันก็มีแต่ฉันคนเดียวที่ตื่นเต้น แล้วก็อึดอัด แต่ตอนนี้ไม่แล้วที่ช้าน
บอกไปถึงคนที่ช้านชอบเขาจะไม่ชอบช้านรึจะเกลียด แต่อย่างน้อยช้านก็ได้เผยความรู้สึกให้เขาได้รับรู้แล้ว สำหรับช้านถือว่าไม่มีอะไรคาใจอีกแล้ว ช้านคิดว่าสำหรับคนที่แอบรักเหมือนกัน ในความคิดช้านนะ เรารู้ตัวเองดีที่สุดว่าควรจะบอกรึไม่ แต่ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือเราควรเตรียมใจยอมรับความจริงให้ได้ ไม่ว่าผลมันจะออกมาเป็นอย่างไร จะดีรึร้าย ช้านเอาใจช่วยคนหัวอกเดียวกันนะค่ะ สู้ๆๆๆ
ความคิดเห็นที่ 23
... เราคนนึงนะ อยู่ม.3 เทอม 2 แล้ว เราสารภาพเขาไป
สิ่งที่ตอบกลับมา ไม่ใช่ความเฉยชา เขารับความรู้สึกที่ดีของฉันทุกอย่าง
แต่คงเป็นมากกว่าเพื่อนไม่ได้ เขาไม่ได้ชอบนี่นา
เขากับเราก็เป็นเพื่อนกันต่อไป แต่ไม่เหมือนเดิมหรอกนะ
มันคงจะมีการไม่พูด หลบหน้า ต่างๆนาๆที่รู้อยู่แล้วว่า
มันจะเกิดขึ้น ก็ได้แต่ทำใจ...
รักแบงค์เหมือนเดิม (27 ตุลาคม 2554 เวลา 16:13:45)
ความคิดเห็นที่ 22
แพม (4 กันยายน 2554 เวลา 11:17:04)
ความคิดเห็นที่ 21
เป็นคำพูดที่ดีมาก เป็นเหตุ เป็นผล ทำให้เกิดความมั่นใจ เราคิดว่าเราก็อยู่ในข่ายที่ไม่กล้าบอกทั้งๆ ที่รู้ว่าเขามีใจกับเรามาก รู้มานาน ชัดเจนมาก เรากับเขาต่างโสดทั้งคู่ โสดแบบเคยมีครอบครัวมาแล้ว เลิกรากันไป หน้าที่การงานเราทั้งคู่ก็อยู่ระดับสูง ใจจะตัดเขากลับตัดไม่ขาด หลายต่อหลายครั้งมีเหตุให้พบกัน ร่วมงานกัน เขาพยายามสบตา พูดประกาศ ร้องเพลงบอกเราเป็นนัยๆ เราไม่กล้าเสี่ยง เราเคยเจ็บมาครั้งหนึ่งแล้วขยาดเลย เขาทำให้เรารู้ว่า เรากับเขาต่างรู้กันอยู่ในใจ หลายๆ คนเริ่มรับรู้เรื่องเขาชอบเรา ทุกๆ คนมองว่าทุกอย่างเราเหมาะสมกัน เราคงต้องถามเขาเร็วๆ นี้ วันเกิดเราเขาส่งเพลง หยุดตรงนี้ที่เธอ ของฟอร์ด ฟังแล้วเข้าใจเขา เขาไม่กล้ากับเราหรอกเราระวังตัวมาก ทุกครั้งไปไหนมาไหนเราจะมีพี่เลี้ยงไปด้วยตลอด เขาไม่มีโอกาสเข้ามาใกล้ แต่ยังกล้าโทรหาเรา คุยนานๆ ได้เป็น 2-3 ชั่วโมง หลายๆครั้ง เรารู้ว่าเขาไม่กล้า ขอบคุณนะคะ วันนี้พบคำตอบแล้ว รู้แล้ว ไม่กล้าไม่จบ ......
คนธรรมดา (18 สิงหาคม 2554 เวลา 17:03:51)
ความคิดเห็นที่ 20
จริงๆด้วยค่ะ
แค่ กล้า เราก็จะได้รู้ว่าเขาคิดยังไงกับเราบ้าง
โอกาสที่จะได้รับรู้และ ความกังวลก็จะหายไป
แอบรัก...เสมอ (12 สิงหาคม 2554 เวลา 18:40:10)
ความคิดเห็นที่ 19
ขอบคุณที่ทำให้ฉันรู้มากขึ้น
เหนือ (11 สิงหาคม 2554 เวลา 14:02:22)
ความคิดเห็นที่ 18
50 : 50 นั้นถ้าเค้าไม่ตอบกลับมามันจะเหลือซักกี่เปอร์เซ็น
เด็กม.ปลาย.... วส. (9 สิงหาคม 2554 เวลา 21:34:56)
ความคิดเห็นที่ 17
ไม่ผิดหรอกที่เราจะรักใครสักคน และไม่ผิดหรอกที่เขารักเราไม่ได้ เครื่องมันจูนไม่ตรงกัน ทำไงได้ การบอกรัก ต้องดูท่าทีของอีกฝ่าย จะมีอารมณืเคลิ้มไปคนเดียวได้ไง เขินตายเลย ... พูดแกมเล่นเกมจริงไปบ้างก้ได้ อย่าไปจริงจังมาก เครียดเปล่า ๆ ... เริ่มจากคำว่าชอบก่อนก้ได้ แล้วค่อยไต่ไปหารัก ให้เขามีท่าทีมาให้มั่นใจสักหน่อย แล้วค่อยพูดนะจ๊ะ ถ้ารักแล้วจะกลัวอะไรกับเจ็บเล้ก ๆ .... ดีกว่าโดนหลอก ดีกว่าถูกทิ้ง นั่นแหละเจ็บใหญ่กว่าเยอะ..... อย่าโกรธนะ ถ้าฉันจะบอกอะไรบางอย่าง ..... ฉันชอบเธอนะ... ถ้าเธอไม่มีใคร อยากไปไกลกว่ากว่านั้น ...อุ้ย...เขิน...แต่ไม่อาย...
นัส (19 กรกฎาคม 2554 เวลา 21:20:39)
ความคิดเห็นที่ 16
เเอบรักคนข้างบ้านรักจริงนะยังไม่ใด้คุยกันจะบอกรักเขายังไงดีครับ
คนขี้อาย (10 กรกฎาคม 2554 เวลา 21:54:41)
ความคิดเห็นที่ 15
ถ้ามีคนถามว่าเรากับคนที่เราแอบชอบเป็นไรกันแล้วเค้าตอบว่าเป็นแค่คนรู้จัก
แต่ผู้หญิงคนนั้นไม่เชื่อจึงเรียกเรามาถามเพราะเรากับผู้หญิงคนนั้นก็เป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว
แต่พอเราหันไปมองคนที่เราแอบชอบเขามีสายตาที่ทำให้เรารู้สึกว่าเราควรตอบว่าเป็นแค่คนรู้จักกัน
แล้วเราก็ยิ้มออกมาทั้งๆที่เค้าน่าจะรู้ว่าเราคิดไงกะเค้า คิดว่าอย่างงี้จะเจ็บไหม
ความคิดเห็นที่ 14
เขียนดีมากเลยค่ะ แล้วถ้าเกิดบอกไปผลออกมาคือเจ็บมันจะเป็นยังไงล่ะค่ะ
ความคิดเห็นที่ 13
>>การที่จะบอกรักใครสักคนมันก็ยากพอสมควร แต่คำว่ารักก็เปนแค่50%ที่เราพอที่จะพยายามให้มันเป็นจริงได้ถ้าเรารักเขา อีกครึ่งนั้นก็คือคำว่าไม่รักที่เรามีไว้เพราะอาจไม่กล้าที่จะบอกเขาไป หรือบอกไปแล้วอาจได้รับคำตอบที่ทำให้เราไม่ปลื้ม เผื่อไว้อาจเจ็บกับคำตอบนั้น<<
ความคิดเห็นที่ 12
ดูจากการกระทำของเค้าเราก็รู้อยู่เต็มอกว่าเป็นได้แค่คนรู้จัก ถ้าบอกออกไปก็มีแต่เจ็บกับเจ็บ
ความคิดเห็นที่ 11
น (4 พฤษภาคม 2554 เวลา 19:30:24)
ความคิดเห็นที่ 10
กล้าที่จะรัก กล้าที่จะบอก ไม่ต้องกลัวว่าจะเจ็บปวดจากการถูกปฎิเสธ มันไม่สำคัญหรอก สิ่งที่สำคัญคือ เราได้สารภาพความในใจให้เขารับรู้ .....รับรู้ว่า เขาเป็นคนที่น่า(ที่จะ)รักมากแค่ไหน ^^
ว๊าววว (19 เมษายน 2554 เวลา 18:12:20)
ความคิดเห็นที่ 9
เราเป็นคนนึงที่ไปแอบชอบคนที่พบแค่ผ่านกัน แต่การพบที่บ่อยครั้ง และเรารู้สึกพิเศษในใจว่าเค้าคือคนที่เรารอ
จนเกือบ 5 ปี เลยตัดสินใจบอกไปว่า แอบชอบ นะ ถึงแม้คำตอบจะดูแบ่งรับแบ่งสู้เรา แต่มันก็เป็นความรู้สึกที่ดี
ที่เราได้บอกเขาไปแล้ว และตอนนี้ถึงจะไม่ได้เป็นคู่ใจกัน แต่ก็ยังรู้ว่าเรามีมิตรภาพที่ดีต่อกัน
การชอบหรือรักใครซักคนจริง ความประสบความสำเร็จของเราไม่ได้ขึ้นอยู่กับคำว่าได้ ครอบครอง หรือไม่
แต่ขึ้นอยู่กับคำว่า มิตรภาพ
TU 48 (19 เมษายน 2554 เวลา 16:36:04)
ความคิดเห็นที่ 8
ถ้าเปนแบบนั้นคงจะดี
แต่นี่มันไม่ใช่
inchanMc (15 เมษายน 2554 เวลา 11:22:34)
ความคิดเห็นที่ 7
กล้าทำแล้วได้มันกลับมาก็ดีแต่ถ้าเค้าคนนั้นเป็นเพื่อนเราหยุดตัวเองไว้ที่คำว่าเพื่อนดีกว่าจะได้ไม่เจ็บ
yim (25 มีนาคม 2554 เวลา 13:09:18)
ความคิดเห็นที่ 6
Sirawin (16 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา 14:41:54)
ความคิดเห็นที่ 5
ความรักเป็นสิ่งสวยงามหากรักอย่างถูกต้องและสร้าง
สรรค์
ครูขวัญ (7 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา 14:43:47)
ความคิดเห็นที่ 4
555+ (3 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา 15:53:53)
ความคิดเห็นที่ 3
ความรัก เป็นสิ่งที่ควรเก็บไว้ในใจมากกว่าที่จะบอกออกไป โดยไม่แน่ใจ 50-50 เป็นความเสี่ยงเหลือเกิน คงสัมพันธภาพของความเป็นเพื่อนไว้ให้นานแสนนาน รักไม่จำเป็นต้องบอก หากทั้งสองฝ่ายคิดเหมือนกันสายตาก็บอกได้ หากเราไม่อยากสูญเสียสัมพันธภาพความเป็นเพื่อน ควรให้แน่ใจก่อนแล้วค่อยบอกรัก ดีไหม เพราะเราทั้งสองก็ยังเป็นเพื่อนกันได้ต่อไปอีกนาน
คนแอบรัก (1 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา 12:22:48)
ความคิดเห็นที่ 2
ตอนแรกฉันก็คิดว่า ๕๐:๕๐ เปอร์เซ็น รัก:ไม่รัก แต่เมื่อฉันบอกเขาไปแล้ว ฉันกลับไม่ได้คำตอบอะไร เขาเงียบไปไม่ได้ตอบว่าอะไร ฉันงงมากเลย ตกลงฉันคิดผิดใช่ไหมที่ไปบอกเขา
ไออาร์ (1 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา 10:24:53)
ความคิดเห็นที่ 1
แล้วถ้า ๕o เปอร์เซ็นนั้น ไม่เป็นของเรา ทุกอย่างระหว่างเราจะเปลี่ยนไป และฉันก็คงเป็นเพื่อนเค้าต่อไปไม่ได้อีก
เพื่อนเก่า (1 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา 09:57:11)
ความคิดเห็น