ถึงแม้คุณคิดว่าคุณเลิกจับคนใส่กล่องแล้ว แต่ก็พบว่าคุณเพียงแค่หยิบ “เขา/เธอ” ออกมาจากกล่องใบหนึ่งแล้วก็หยิบ “เขา/เธอ” ใส่ลงไปในกล่องอีกใบหนึ่ง ... แค่นั้นเอง
ยกตัวอย่างพอคุณเห็นว่าเกย์ เลสเบี้ยน กะเทย ไม่ได้เป็นผู้ชาย / ไม่ได้เป็นผู้หญิง งั้นเอาล่ะ ... หยิบพวกเขาออกจาก “กล่องผู้ชาย กล่องผู้หญิง” ซะ แล้วก็หากล่องอีกสัก 2-3 ใบ มาใส่พวกเขากันดีกว่า โดยทำให้เป็น กล่องเลสเบี้ยน กล่องกะเทย กล่องเกย์ เขาจะได้มีกล่องอยู่กันเป็นสัดส่วน
คุณจับ “เกย์” ใส่ลงไปใน “กล่องเกย์”
คุณจับ “หญิงรักหญิง” ใส่ลงไปใน “กล่องเลสเบี้ยน”
แล้วคุณก็จับ “กะเทย” ใส่ลงไปใน “กล่องกะเทย”
แต่พอใส่ลงไปแล้วหากพวกเขาไม่ได้เป็นไปตามกล่องล่ะ อะไรจะเกิดขึ้น ?
เหมือนอย่างกรณี ต่อไปนี้ ...
![]() |
เบญ (25 ปี) และ ปอนด์ (23 ปี) |
บุคคลสองท่านนี้ คนซ้ายเป็นทอม ชื่อ “เบญ” อายุ 25 ปี คนขวาเป็นกะเทย ชื่อ “ปอนด์” อายุ 23 ปี ทั้งคู่พบกันในเกมออนไลน์ เบญแสดงตัวตนในเกมว่าเป็นผู้ชาย ส่วนปอนด์แสดงตัวตนในเกมว่าเป็นผู้หญิง ต่างฝ่ายต่างคิดว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นผู้ชาย-ผู้หญิง ไม่ได้คิดว่าจะเป็นเพศที่สาม จนกระทั่งทั้งสองได้แต่งงานกันในเกม ทั้งเบญและปอนด์เริ่มให้ความสนใจกันและกันแล้วหันมา Chat กันใน MSN เพื่อทำความรู้จักกัน
ใน MSN ต่างฝ่ายต่างแลกรูปกัน เบญเลือกรูปที่ดูแมนที่สุด ส่วนปอนด์ก็เลือกรูปที่ดูสวยที่สุด
แล้วเบญก็ขอเบอร์โทรศัพท์ปอนด์ แต่ปอนด์เกรงว่าเบญจะรู้ว่าตนเองเป็นกะเทยก็เลยบ่ายเบี่ยงไม่ยอมให้เบอร์โทรศัพท์สักที เพราะว่าถ้าเบญได้ยินเสียงปอนด์ เบญต้องรู้แน่ว่าปอนด์เป็นกะเทยเพราะเสียงปอนด์แมนมาก
ในที่สุดเมื่อไม่ได้เบอร์โทรศัพท์เบญก็เปิดเผยตัวเองเสียเลยว่าแท้จริงแล้วเบญเป็น “ทอม” ปอนด์ก็กึ่งประหลาดใจกึ่งดีใจนิด ๆ เพราะตนเองก็เริ่มมีใจชอบทอมบ้างแล้ว ในเมื่อฝ่ายโน้นเปิดตัว ปอนด์ก็ใช้โอกาสนี้เปิดตัวว่าเป็น “กะเทย” ซะเลย หลังจากทั้งคู่เปิดตัวกันเอง ต่างฝ่ายต่างตกอยู่ในอาการงง ๆ แต่ก็ยอมรับกันได้ จึงคบกันเป็นเพื่อนต่อไป จนกระทั่งมีการนัดเจอกัน เมื่อนัดเจอกัน ทั้งคู่ก็ยังคงรู้สึกถูกชะตากันเพราะก่อนหน้านั้นมีการคุยกันทางในโลกออนไลน์มานานหลายเดือนแล้ว ทั้งคู่ไม่รีรอที่จะตกลงปลงใจเป็นแฟนกันภายในสองวันหลังจากที่ได้พบตัวจริงกันและกัน จนกระทั่งพากันไปจดทะเบียนสมรสในที่สุด
![]() |
ทะเบียนสมรสที่ทั้งคู่ไปจดกันในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ |
![]() |
หลังจดทะเบียนสมรสก็กลายเป็นข่าวในสื่อในวันถัดมา |
รายการ VIP ย้อนหลังที่ปอนด์และเบญให้สัมภาษณ์ http://www.youtube.com/watch?v=1spgzaAOVwo
เราไปดูอีกกรณีหนึ่ง
![]() |
ยุ่น (36 ปี) และ กี (45 ปี) |
สำหรับบุคคลสองท่านนี้ คนซ้ายมือเป็นทอมชื่อ “ยุ่น” อายุ 36 ปี คนขวามือเป็นกะเทย ชื่อ “กี” อายุ 45 ปี ทั้งคู่คบกันในฐานะคู่รักมาประมาณ 20 ปีแล้ว เขาและเธอพบกันในสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง เวลานั้นยุ่นอายุ 16 ส่วนกีอายุ 25 ตอนที่พบกัน ยุ่นมองกีว่ากีเป็นผู้หญิงที่สวย ส่วนกีก็มองยุ่นว่าเป็นเด็กหนุ่มตี๋หน้าตาน่ารัก ยุ่นดูไม่ออกว่ากีเป็นกะเทย ส่วนกีก็มองยุ่นไม่ออกว่ายุ่นเป็นทอม ต่อเมื่อได้จีบกันจึงได้รู้ว่าต่างฝ่ายไม่ใช่ผู้ชาย ไม่ใช่ผู้หญิง จากวันนั้นจนวันนี้ทั้งคู่ยังคบหากันในฐานะคู่รักแม้ว่าจะมีบางช่วงเวลาที่ทั้งสองห่างเหินกันไป
![]() |
ยุ่นตั้งแต่วัยเด็กจนกระทั่งโตเป็นหนุ่ม |
“ยุ่น” แน่นอนว่าเธอเป็นทอมที่ชอบผู้หญิง แต่ยุ่นก็ชอบกะเทยได้ด้วยเช่นกัน ก่อนจะมาพบกี ยุ่นเคยมีแฟนเป็นกะเทยมาก่อน ยุ่นอธิบายไม่ได้ว่าทำไมเขาจึงชอบกะเทย เขารู้เพียงว่ามันเป็นความชอบอย่างหนึ่ง
![]() |
กีตอนเป็นวัยรุ่น |
“กี” ก่อนที่เธอจะมาคบกับยุ่น กีก็เคยมีแฟนเป็นทอมมาก่อนเช่นกัน ถึงแม้กีจะชอบผู้ชายแต่กีก็รู้สึกว่าตนเองชอบทอมได้ด้วย สเป็กของกีคือผู้ชายหรือทอมหน้าตี๋ ๆ
มีช่วงเวลาหนึ่งที่เขาและเธอห่างหายกันไป เมื่อกีไปอยู่ยุโรปเป็นเวลา 15 ปี แต่แล้วทั้งคู่ก็ได้กลับมาพบกันอีกครั้งความสัมพันธ์จึงกลับมาเหมือนเดิม
เมื่อถูกถามว่าความสัมพันธ์นี้จะยาวนานแค่ไหน ยุ่นให้ความเห็นว่า
“เราต้องเข้าใจถึงความเป็นจริงว่า เราก็เป็นอย่างนี้ พี่กีก็เป็นอย่างนี้ (เป็นเพศที่นอกกรอบ) ถ้าเรายิ่งไปตีกรอบอะไรให้กันมากๆ เราจะไปกันไม่รอด เราไม่ได้ยึดติด เราไม่ได้ตั้งกฎเกณฑ์ว่าเราจะรักกันไปนานเท่าไร แค่เราคุยกันด้วยความจริงใจ ทั้งหมดอยู่ที่คำพูดและการกระทำ”
กีแสดงความเห็นกับคำถามเดียวกันว่า “ไม่ได้ตั้งกฎเกณฑ์ว่าจะคบกันไปยาวนานแค่ไหน แต่มีความรู้สึกว่ายิ่งเจอก็ยิ่งห่วงใยและรักเขาอยู่เสมอ มีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ชิดเขา”
เราจะเห็นได้ว่า คู่รักทั้งสองคู่นี้ไม่ได้เป็นไปตามกล่องกะเทย หรือกล่องเลสเบี้ยน กีเป็นกะเทยที่ไม่ได้มีคู่รักเป็นผู้ชายแต่มีคู่รักเป็นทอม ยุ่นเป็นทอมที่ไม่ได้มีคู่รักเป็นผู้หญิง แต่ยุ่นมีคนรักเป็นกะเทย นั่นหมายความว่าถ้าเราคิดว่าทอมต้องคู่กับดี้ กะเทยต้องรักกับผู้ชาย นั่นแสดงว่าเรากำลัง “จับคนใส่กล่อง” อีกแล้ว
แม้แต่ “ความหลากหลายทางเพศ” ที่เราคิดว่าพวกเขาหลุดออกไปจากกรอบชายหญิงแล้ว พวกเขาน่าจะมีกรอบอะไรบางอย่างที่ทำให้เราสามารถนิยามพวกเขาได้ เมื่อเราเฝ้าสังเกตไปเรื่อย ๆ จะพบว่าแม้แต่ในความหลากหลายทางเพศเองก็ไม่ได้มีกรอบหรือกล่องอะไรที่เราจะสามารถไปนิยามมันได้ ถึงแม้จะเป็นกะเทยเหมือนกันแต่ก็ไม่ได้เป็นกะเทยเหมือนกันไปหมดทุกอย่าง ถึงแม้จะเป็นทอมเหมือนกันแต่ก็ไม่ได้เป็นทอมเหมือนกันไปหมดทุกคน ทั้งหมดนั้นตั้งอยู่บนฐานความจริงที่ว่า มนุษย์มีอิสระและมีลักษณะเฉพาะในตนเอง
สรุปแล้วไม่ว่า เขา หรือ เธอ จะเป็นอะไร เราก็ไม่ควรจับพวกเขาไปใส่กล่อง
แถมท้ายอีกนิด
ในกรณีของเกย์ก็เช่นเดียวกัน เราเข้าใจว่าเกย์ก็คือผู้ชายที่ชอบผู้ชายด้วยกัน เคยมีเพื่อนของผู้เขียนเล่าให้ฟังว่าเธอมีเพื่อนเกย์คนหนึ่ง เขาเปิดเผยตัวตนว่าเป็นเกย์อย่างภาคภูมิใจ แต่เพื่อนเกย์คนนั้นก็รู้สึกประหลาดใจขึ้นมาในวันหนึ่งเมื่อเขาพบว่าเขาชอบผู้หญิงได้ด้วยเหมือนกัน แล้วเขาก็บอกรักเธอ หญิงคนนั้นก็ตอบรักเขาทั้งๆ ที่รู้ว่าเขาเป็นเกย์ จนทั้งสองกลายมาเป็นคู่รักกันในช่วงเวลาหนึ่ง ถึงแม้จะเป็นความรักที่ไม่ได้ยืนยาวอะไรก็ตาม
หรือแม้แต่ในความเป็นไบเซ็กช่วลก็ตาม ไบเซ็กช่วลหมายถึงผู้ชายหรือผู้หญิงที่รักได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง แต่ถ้าวันหนึ่งไบเซ็กช่วลคนนั้นไปรักกะเทย หรือไบเซ็กช่วลคนนั้นเกิดอยากจะแปลงเพศขึ้นมา เราจะเรียกไบเซ็กช่วลคนนั้นว่าอะไร ?
ทั้งหมดนี้ไม่มีคำพูดไหนจะอธิบายได้ดีไปกว่าคำพูดที่ผู้เขียนได้กล่าวสรุปไว้ข้างต้นแล้วว่า
“มนุษย์มีอิสระและมีลักษณะเฉพาะในตนเอง”
ดังนั้น เราไม่ควรจับคนใส่ลงไปในกล่อง