Loading ...

หนังสั้นเรื่อง โอเคอะเหรอ” จากนิสิตนิเทศฯ จุฬาฯ ปี คว้ารางวัลชนะเลิศโครงการหนังสั้น “Living in Harmony: อยู่ร่วมในความต่าง ด้านกรรมการชี้ หนังสั้นในโครงการฯ ย่นระยะเวลาการยอมรับการอยู่ร่วมในความต่างให้สั้นลง

เมื่อวันที่ ตุลาคม 2558 มูลนิธิแพธทูเฮลท์ (path2health foundation) ภายใต้การสนับสนุนจากสหภาพยุโรป (European Union) และองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย (World Health Organization Thailand) ได้จัดงานแสดงหนังสั้นและประกาศรางวัลโครงการประกวดหนังสั้น “Living in Harmony: อยู่ร่วมในความต่าง” ณ โรงภาพยนตร์ House Rama RCA ซึ่งมีหนังสั้นที่ผ่านเข้ารอบทั้งหมด 10 เรื่อง  โดยหนังสั้นดังกล่าวมีเป้าหมายเสริมสร้างความเข้าใจการอยู่ร่วมกันในสังคมไทย ท่ามกลางบริบทความหลากหลายทางเชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา วัฒนธรรม ฯลฯ


หนังสั้นที่ได้รับรางวัลหนังสั้นยอดเยี่ยม ได้แก่ เรื่อง โอเคอะเหรอ โดย น.ส.จิดาภา รัตน โสภินสวัสดิ์ และ น.ส.ฐานิสรา เพ็ชรรื่น นิสิตชั้นปีที่ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นเรื่องราวของ บิว” ที่ได้กล้องวิดีโอตัวใหม่มา และไม่พลาดที่จะทดสอบกล้องด้วยการบันทึกภาพของ แพน” เพื่อนสาวมาตลอดทั้งวัน กระทั่งในตอนค่ำของวันนั้น เมื่อตั้งใจดูวิดีโอทั้งหมดที่ถ่ายมา เขาได้พบ บางสิ่ง” ของเพื่อนสาว พร้อมกับคำถาม บางอย่าง” ในใจ


               ส่วนรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่เรื่อง หม่าเอ๊ โดยนายณัฐภัทร ไกรตรวจพล และนายณัฐพล ทะนะเบะ บัณฑิตคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ และรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ เรื่อง “2…3000” โดยนายตฤณพัฒน์ คงรอด นายณัฐชา นิ่มนวล และนายพีรพัฒน์ รักงาม นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนชลราษฎร์อำรุง นอกจากนี้รางวัลหนังสั้นขวัญใจมหาชน ได้แก่เรื่อง “Behind the Harmony” โดยนายคณิน พรรคติวงษ์ และน.ส.พีรดา อธิคมบัณฑิตกุล นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

..จิดาภา กล่าวว่า หนังสั้นเรื่อง โอเคอะเหรอ พยายามตั้งคำถามกับคนดูว่าในสิ่งที่เราบอกว่า โอเค ไม่มีปัญหา ปกติดีในเรื่องการอยู่ร่วมกับความหลากหลาย แท้จริงแล้วเราโอเคแน่หรือ โดยหนังได้ถ่ายทอดทัศนคติหรืออคติบางอย่างที่คนแสดงออกมาอย่างไม่ทันรู้ผ่านเรื่องราวที่พบเจอในชีวิตประจำวัน


          “หนังสั้นเรื่องหนึ่งอาจจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความคิด ทัศนคติคนดูได้ในทันที แต่บางเรื่องจะสามารถตั้งคำถามให้คนดูได้คิดต่อ ได้ทบทวนกับตัวเองได้ และเราหวังว่าโอเคอะเหรอจะได้ทำหน้าที่นั้น น.ส.จิดาภากล่าว


ด้านนายเปรมปพัทธ ผลิตผลการพิมพ์ ตัวแทนเยาวชน จากกลุ่ม Youngfilm หนึ่งในคณะกรรมการโครงการฯ กล่าวในวงเสวนาหัวข้อ ความหลากหลาย เยาวชน และหนังสั้น จะสร้างการอยู่ร่วมกันอย่างไร ว่า เมื่อเยาวชนได้เข้ามาทำหนังซึ่งไม่ได้อยู่ในหลักสูตรของโรงเรียน นับเป็นโอกาสดีที่ทำให้เขาได้พูดในสิ่งที่ต้องการจะพูด และในประเด็นการยอมรับใครสักคนที่ต่างจากเราเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่หนังสั้นในโครงการนี้ทำให้เห็นว่า เมื่อพูดถึงเรื่องความเมตตาหรือการยอมรับ เราไม่ควรวัดว่าเราปฏิบัติอย่างไรกับคนที่เหมือนกับเรา แต่ควรวัดว่าเราปฏิบัติอย่างไรกับคนที่ต่างจากเรามากกว่า


“ผมคิดว่าการอยู่ร่วมบนความต่างเราคงไม่ได้เห็นเร็วๆ นี้ แต่เชื่อว่าหนังที่เยาวชนทำกันในครั้งนี้จะช่วยย่นระยะเวลาการยอมรับเหล่านั้นให้สั้นลงได้” นายเปรมปพัทธกล่าว

          ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถรับชมหนังสั้น ทั้ง 10 เรื่อง ได้ที่ www.teenpath.net