รักของหนู  ผู้ปกครอง  ไม่เอา

259

       มีใครบ้างไหมที่กำลังร้อนรุ่มทุรนทุรายกับ รักที่ไม่สมหวัง ด้วยอุปสรรคจาก พ่อแม่
มีหลายคนยกมือสลอน ขณะที่บางคนอาจทำท่าไม่แน่ใจ เพราะว่า ยังปิดบังเรื่องนี้ไม่ให้พ่อแม่รู้ เพราะกลัวถูกสั่งห้าม หรือบ้านจะร้อนเป็นไฟ แน่เลยยยย ถ้าพ่อ แม่รู้

เราจะแก้หรือสู้กับปัญหานี้อย่างไรดี ถึงจะ win win ด้วยกันทั้งสองฝ่าย

เป็นเรื่องใหญ่ไม่ใช่เล่น

         แต่ก่อนจะไปแก้ปัญหา เรามาสำรวจความรู้สึกของเราที่มีต่อ คนรัก คนนี้ ก่อนดีไหม ว่า ทำไมเราถึง รัก คนนี้ หรือทำไมอยาก ควง เขาหรือเธอเท่านั้น

           เพราะรู้ๆ อยู่ว่า รักในวัยเรียนนั้น ยากนักที่พ่อแม่คนไหนจะพยักหน้าหงึกหงักว่า “ได้เลย แม่ไม่ว่า”
ดังนั้น ทั้งที่รู้ว่า ถ้ามีแฟน ต้องมีเรื่องขัดใจกับพ่อแม่แน่ แล้วทำไมเรายังทำล่ะ

เพราะเราอยากเอาชนะใครอยู่หรือเปล่า

           อาจจะมีหลายคนที่เมื่อนั่งถามตัวเองอย่างจริงใจ ไม่โยกโย้แล้ว อาจได้คำตอบว่า อยากทำให้เพื่อนๆ อิจฉา อยากเป็นคนเก่ง หรือไม่น้อยหน้าเพื่อนในเรื่องนี้ อ้าว ใครๆ ก็มี ทำไมเราจะมีไม่ได้ล่ะ ใช่ไหม

           เอ่อ ถ้าคิดแบบนี้ อยากให้ทบทวนดูอีกที ว่าคนๆ นั้น เป็นคนดีพอที่สมควรจะเป็น เครื่องมือ ของเราไหม ถ้าเราแค่อยากมีใครก็ได้ สักคน มันคุ้มค่ากันจริงหรือเปล่าที่จะเอาคนนั้นมาแลกกับความรักของพ่อแม่ที่เรารู้ๆ กันอยู่ว่า คือคนที่หวังดีกับเราที่สุดในโลกแล้ว เหตุผลนี้จึงไม่คุ้มค่าพอที่จะแลกหรือยืนยันว่า รักของเรานั้นมีค่า

เรารัก เขาที่เป็นเขา หรือ รักเขาเพราะ ฐานะ ความดัง สิ่งต่างๆ ที่เป็นแค่เปลือกนอก

           ควรคิดถึงเรื่องนี้ให้ดี เพราะถ้าเราแทบไม่รู้จักตัวของเขาอย่างจริงๆ แต่ชอบเปลือกนอกของเขาต่างหาก
แสดงว่า นั่นคือ การหลงใหลได้ปลื้ม ซึ่งอาการแบบนี้ เมื่อเป็นแล้วจะหายได้ง่าย เพราะเราก็จะหลงใหลได้ปลื้มคนใหม่ไปเรื่อยๆ และถ้าคนเราหลงใหลได้ปลื้ม กับอะไรที่ขัดกับความเชื่อของครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นด้านศาสนา เชื้อชาติ ฐานะ เราก็จะขัดแย้งกับครอบครัวเราด้วยเรื่องที่ไม่คุ้มค่าที่จะเสี่ยงอีกเช่นกันนะ ว่าไหม

เรา จี๊ด คนนี้ เพราะเขามีอะไรที่ “ไม่ธรรมดา”

          อยากทำให้เพื่อนตาค้าง เอาให้โลกตะลึงไปเลยไงว่าเรา ควงคนนี้เป็นแฟนได้ เราจะได้ cool ในสายตาเพื่อน เหตุผลนี้ก็ดูไม่มีน้ำหนักมากเท่าไหร่ที่จะไปขัดแย้งกับพ่อแม่นะ เพราะเรากำลังมองความรักเป็นแค่เกมเท่านั้น ถ้ารักแล้วก็ต้องตามมาด้วยคำว่า เสียใจ คิดซะใหม่อีกทีว่าคุ้มไหมที่จะทำให้พ่อแม่ช้ำใจ

           เมื่อสำรวจ ตรวจคุณสมบัติของความรักที่เรามีต่อ เขา หรือ เธอ ครบแล้วทุกด้านและยังยืนยันว่า ถ้าไม่ได้อยู่กับคนนี้ ก็จะไม่ขอรักใครอีกต่อไป เราก็คงต้องพิสูจน์ให้ พ่อแม่รู้และมั่นใจว่า เรา ทั้งรักเรียน และเรียนรัก ไปพร้อมกันได้อย่างไรบ้าง

ถ้าพ่อแม่บอกว่า เรายังเด็กเกินไปที่จะเข้าใจคำว่า รัก (กลัวว่าเราจะเรียนรัก มากกว่ารักเรียน ว่างั้นเถอะ)

           เจอเหตุผลนี้เข้า เพื่อน ๆ จะตอบว่าอย่างไร ที่จะทำให้พ่อแม่ก็เข้าใจเราเช่นกันว่า ความรัก เกิดได้กับคนทุกวัย โดยเฉพาะยิ่งในวัยเจริญพันธุ์เช่นพวกเราแล้ว ความรัก คือพลังขับดันชีวิตให้ไปทางดี หรือ ร้าย ก็ได้ ขึ้นอยู่กับผู้ขับและเพื่อนนั่งข้างคนขับ เราสามารถยืนยัน นั่งยัน นอนยันได้ไหมว่า เราจะพาเรือรักลำนี้ล่องไปได้อย่างปลอดภัยเท่าที่สติปัญญาในวัยนี้ของเราจะนำพาไปได้ และเราจะให้พ่อแม่ยืนดูหรือถือหางเสือให้เรา

ถ้าพ่อแม่บอกว่า คนรักของเราไม่สมกับเรา (ด้วยเรื่องฐานะ ชาติตระกูล อ๊ะ อ๊ะ อาจจะเน่า  แต่พ่อแม่เราต้องนึกถึงเรื่องปากท้องก่อนแหละ)

          ถ้าใครเจอพ่อแม่ยื่นเรื่องนี้ ก็ต้องทบทวนดูดีๆ นะว่า เรารู้จักฐานะ พื้นเพของอีกฝ่ายอย่างดี ไปเห็นกับตาสองข้างของตัวเองมาแล้วว่า เขาอยู่กันอบอุ่นขนาดไหน จริงหรือเปล่า จะได้เอามาอธิบายให้ท่านสบายใจได้ว่า “คนเดินถนน คนนี้ เป็นลูกผู้ชายตัวจริงนะ”

           ต่างฝ่ายอาจต้องหาผู้ช่วยพระเอก ผู้ช่วยนางเอก ไว้เพื่อรับประกันกับพ่อแม่ว่า เรารักกัน และทำตัวสมกับรักในวัยเรียน อย่าง ไรบ้าง           เอาล่ะนะ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามที่ทำให้พ่อแม่ไม่เห็นด้วยกับรักครั้งนี้ แต่ถ้าเราเชื่อมั่นว่า ณ วันนี้ เราได้เลือกคนที่ดีที่สุดแล้ว ทั้งเรา และ เขาหรือเธอ ก็ต้องช่วยกันฝ่าฟัน ทำให้พ่อแม่เชื่อใจและยอมรับให้ได้ว่า “คู่แท้ อาจไม่มี แต่หนูมี ‘คู่รักที่ดี’ ในตอนนี้จริงๆ นะ”

แสดงความคิดเห็น

Please enter your comment!
Please enter your name here